หลายคนเข้าใจผิดว่ากาแฟคั่วเข้มคือกาแฟที่ถูกคั่วจนไหม้ มีกลิ่นเหม็นไหม้คล้ายยางรถยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักดื่มกาแฟส่วนใหญ่ไม่ปลื้ม แต่ในความเป็นจริง กาแฟคั่วเข้มที่ดีจะต้องผ่านการคั่วอย่างพิถีพิถันเพื่อดึงรสชาติที่กลมกล่อม นุ่มลึก และคลาสสิกออกมา
หัวใจของการคั่วแบบเข้มอยู่ที่ “ความสมดุลของรสชาติ” นักคั่วกาแฟต้องควบคุมระดับความร้อนและเวลาให้พอดี ไม่ให้เมล็ดไหม้จนเสียรสชาติ เพื่อให้ได้กาแฟที่เข้มข้น หวาน ละมุน และเต็มไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับกาแฟคั่วเข้ม ตั้งแต่ความหมาย วิธีคั่ว ไปจนถึงวิธีสกัดกาแฟให้อร่อย
การคั่วกาแฟคือกระบวนการที่เปลี่ยนเมล็ดกาแฟดิบให้กลายเป็นเมล็ดกาแฟที่พร้อมชงดื่ม ระหว่างการคั่ว เมล็ดกาแฟจะเปลี่ยนสีจากเขียวอมฟ้าเป็นน้ำตาลเข้ม และมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่กายภาพและเคมี
กาแฟคั่วเข้มจะมีลักษณะเด่นคือ สีเข้ม ผิวมันเงา และมีความเป็นกรดต่ำ (รสเปรี้ยวน้อย) พร้อมกับกลิ่นหอมล้ำลึกและรสชาติที่หนักแน่น กาแฟประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติขมเข้มและเนื้อสัมผัสที่แน่น
พื้นฐานของการคั่วกาแฟคือการให้ความร้อนกับเมล็ด เมื่อคั่วในระดับเข้ม เมล็ดจะถูกคั่วจนถึงจุดที่น้ำมันเริ่มซึมออกมาที่ผิว แต่ยังไม่ถึงขั้นเกิดควันไหม้
กาแฟคั่วเข้มมากๆ มักถูกเรียกว่า French Roast หรือ Italian Roast ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องรสขม ไหม้ และมีกลิ่นเถ้าถ่าน อย่างไรก็ตาม การคั่วที่ดีจะต้องไม่ปล่อยให้เมล็ดไหม้จนเกินไป เพราะจะทำให้เสียรสชาติที่ซับซ้อนและทำให้กาแฟขมเกินไป
หากอยากได้กาแฟคั่วเข้มที่รสชาติดี ควรมองหาเมล็ดที่คั่วโดยผู้เชี่ยวชาญที่ให้ความสำคัญกับความสดและคุณภาพ
ถ้าคุณเคยเผลอทำอาหารไหม้ คุณคงเข้าใจว่าความไหม้ส่งผลต่อรสชาติอย่างไร กาแฟก็เช่นกัน
บางครั้งเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพต่ำหรือเมล็ดที่เก่าจะถูกนำมาคั่วเข้มเพื่อกลบข้อบกพร่องของรสชาติ อย่างไรก็ตาม ในตลาดก็ยังมีเมล็ดกาแฟคุณภาพดีที่ถูกคั่วในระดับเข้มเพื่อดึงรสชาติที่ดีที่สุดออกมา
เคล็ดลับสำคัญของการคั่วกาแฟเข้มให้อร่อย คือ คั่วให้เข้มแต่ไม่ถึงกับไหม้ เพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม และเต็มไปด้วยมิติ
กาแฟคั่วเข้มไม่ได้มีดีแค่ความเข้ม แต่เป็นศาสตร์ของการคั่วที่ต้องอาศัยความชำนาญและความเข้าใจในรสชาติ หากคุณเป็นคอกาแฟ ลองเปิดใจให้กาแฟคั่วเข้มดีๆ สักแก้ว แล้วคุณอาจตกหลุมรักรสชาติที่ลึกซึ้งของมันก็ได้!
1.คุณภาพเริ่มต้นจากต้นน้ำ ให้ความสำคัญกับคุณภาพกาแฟตั้งแต่ขั้นตอนแรก เราใช้เมล็ดกาแฟจากดอยช้าง ผ่าน Washed Process ที่เราควบคุมเองอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟสาร (Green Coffee Bean) คุณภาพสูง ก่อนนำไปคั่ว
2.เทคโนโลยีการคั่วที่แม่นยำ เมล็ดกาแฟของเราถูกคั่วด้วยเครื่องคั่วที่ทันสมัย และมีการตรวจสอบคุณภาพทุกๆ Batch เพื่อให้ได้รสชาติที่คงที่ ดึงเอกลักษณ์ของกาแฟออกมาอย่างเต็มที่และดีตามแบบฉบับของเรา
กาแฟคั่วเข้มมีรสชาติที่ คลาสสิก เข้มข้น กลมกล่อม มีความขมที่เหมาะสม พร้อมกลิ่นหอมที่ชวนให้นึกถึงดาร์กช็อกโกแลต
ความหวาน: ครีมคาราเมล, เมเปิ้ลไซรัป, โคล่า, ดาร์กช็อกโกแลต
เครื่องเทศ: อบเชย, ลูกจันทน์เทศ, โป๊ยกั๊ก
กลุ่มถั่ว: เนยถั่ว, พราลีน, เฮเซลนัท
เนื้อสัมผัสของกาแฟคั่วเข้มนั้นค่อนข้างมาก เคลือบที่เพดานและในปากของคนดื่ม เนื่องจากน้ำมันที่อยู่ในเมล็ดกาแฟ ทำให้รู้สึกถึงครีม รวมกับรสเปรี้ยวน้อย ทำให้รสสัมผัสมีความนุ่มนวลยิ่งขึ้น สรุปคือ รสชาติเข้มข้นและสมดุล (Balance)
ไม่เสมอไป! แม้ว่ากลิ่นและรสชาติของกาแฟคั่วเข้มจะดูหนักแน่น แต่ความเข้มข้นที่แท้จริงขึ้นอยู่กับ วิธีการชงและสัดส่วนกาแฟที่ใช้ มากกว่าระดับการคั่ว
ความเชื่อที่ว่ากาแฟคั่วเข้มมีคาเฟอีนสูงกว่า ไม่เป็นความจริง คาเฟอีนไม่ได้ลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากระดับการคั่ว แต่จะขึ้นอยู่กับ ปริมาณกาแฟที่ใช้ และ วิธีการสกัด มากกว่า
กาแฟคั่วเข้มเป็นหนึ่งในระดับการคั่วที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะ สามารถสกัดออกมาได้หลากหลายวิธี และยังให้รสชาติที่เข้มข้น คงที่ และเสถียร เนื่องจากโครงสร้างเมล็ดที่เปราะจากการคั่ว ทำให้ สกัดรสชาติออกมาได้ง่ายขึ้น
การชงกาแฟให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ที่มีผลต่อการสกัดรสชาติของกาแฟ ได้แก่
1. ขนาดของผงกาแฟบด
2. อุณหภูมิของน้ำ
3. ระยะเวลาในการสกัด
4. ความสดใหม่ของกาแฟ เมื่อกาแฟอายุมากขึ้น น้ำมันที่ผิวจะเกิดการออกซิไดซ์กับออกซิเจน รสชาติก็เปลี่ยนไป แนะนำให้ทานหลังจากคั่ว 7-10 วัน และควรบริโภคให้หมดภายใน 1 เดือน เพื่อให้ได้กลิ่นรสหอมกรุ่น และสดใหม่อยู่เสมอ
กาแฟคั่วเข้มสามารถทำได้ทั้งเครื่องดื่มแบบร้อน เย็น และปั่น นอกจากนี้ยังสามารถทำ Cold Brew ได้อีกด้วย ถือว่าเป็นกาแฟ All in One เลย ดังนั้นร้านกาแฟเปิดใหม่ หรือร้านที่เสิร์ฟกาแฟ 1 ตัว เราจะแนะนำให้มีกาแฟคั่วเข้มเป็นส่วนผสมในกาแฟที่ใช้เสิร์ฟในร้านเสมอ เนื่องจากสามารถชงได้หลากหลายเมนู และมีรสชาติที่ค่อนข้างสมดุล ให้ผลลัพธ์ที่เสถียรและคงที่นั่นเอง
สุดท้ายนี้ อยากชวนให้ทุกคน เปิดใจและสนุกไปกับการดื่มกาแฟคั่วเข้ม เพราะหากเลือกเมล็ดกาแฟที่ดี ผ่านการคั่วที่เหมาะสม เราจะได้รสชาติที่ เข้มข้น สมดุล และหอมโทนช็อกโกแลต พร้อมเนื้อสัมผัสที่ หนักแน่นและเคลือบในปาก
หากใครกำลังมองหา กาแฟคั่วเข้มคุณภาพดี ขอแนะนำเมล็ดกาแฟคั่วเข้ม ขวัญใจร้านกาแฟ รสชาติเข้มข้น หอมโทนดาร์กช็อกโกแลต ถั่ว และคาราเมล ไม่ว่าจะนำไปชงเดี่ยว หรือใช้เป็นเบลนด์ รับรองว่าถูกใจแน่นอน
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการดื่มกาแฟดีๆ ในทุกๆ วันนะคะ
Bluekoff Co.,Ltd. สำนักงานใหญ่
และสถานที่เรียนชงกาแฟ
81 ซอยลาดพร้าว 15 แยก 1 ถนนลาดพร้าว
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
จันทร์ - เสาร์ 8:30น. - 17:00น.
หยุดวันอาทิตย์ และวันหยุดนขัตฤกษ์