“อย่าลืมฟลัชน้ำทิ้งหลังสกัดกาแฟเสร็จนะ”
ประโยคที่คุ้นหูและได้ยินกันบ่อยๆ สำหรับบาริสต้าที่ต้องสกัดกาแฟอยู่ทุกๆ วัน การฟลัชน้ำทิ้ง หรือ Rinsing นั้น คือการที่เราสั่งการให้เครื่องชงปล่อยน้ำออกมาที่หัวชง เพื่อทำการชำระล้างเศษผงกาแฟที่อาจติดอยู่ที่หัวชง และวิธีการ Rinsing นั้นก็มีหลากหลายรูปแบบตามแต่ละแบรนด์เครื่องชงกาแฟจะกำหนดค่าพื้นฐานมาจากโรงงาน อีกทั้งในปัจจุบันนี้บางแบรนด์อาทิเช่น La Marzocco นั้นก็ได้มีการคิดค้นนวัตกรรม Auto Rinsing หรือที่เรียกกันอย่างคุ้นหูในภาษา La Marzocco ว่า Auto Steam Flush ที่ถูกติดตั้งในเครื่องชง La Marzocco รุ่น KB90 เป็นรุ่นแรกนั่นเอง
ในเครื่องชง Modbar Espresso EP ก็เช่นเดียวกัน เพราะถูกออกแบบมาให้สามารถควบคุมการทำงานได้อย่างง่ายดาย ด้วยการสั่งการจากคันโยกที่หัวชงเพียงเท่านั้น และในการ Rinse นั้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยการโยกคันโยกมาที่ตำแหน่งที่สองแล้วโยกกลับไปยังตำแหน่งที่ 1 เครื่องจะประมวลผลถึงคำสั่งการ Rinse และปล่อยน้ำออกมาที่หัวชงแต่ละหัวนั่นเอง
แต่ความพิเศษที่มากไปกว่านั้นคือ เครื่องชง Modbar Espresso EP นั้นสามารถตั้งค่าระยะเวลาที่จะให้เครื่องทำการ Rinse รวมถึงสามารถตั้งค่าความแรงของนำที่ปล่อยออกมาในโหมด Rinsing ได้ด้วยเช่นกัน โดยวันนี้เราจะมาทำการตั้งค่าเหล่านี้ไปพร้อมๆ กันค่ะ
ก่อนอื่น เมื่อเปิดเครื่องชงขึ้นมาพร้อมแล้ว ให้เข้าไปที่เมนู Advanced preferences screen page 2 โดยเข้าที่ home -> main settings -> preferences -> advanced -> page 2
เมื่อเข้ามาถึงแล้วจะเจอหน้าจอการตั้งค่าแบบในรูปนี้เลยค่ะ
โดยในหน้าจอการตั้งค่านี้จะมีคำสั่งต่างที่ปรากฏบนหน้าจอดังนี้นะคะ
1. แถบเมนู Temperature Mode
ซึ่งเมนูนี้จะเป็นการตั้งค่าระบบการควบคุมอุณหภูมิของเครื่องชงกาแฟ โดยที่สามารถสลับได้ระหว่างโหมดอัตโนมัติ และโหมดแมนนวล โดยที่แต่ละโหมดจะมีรายละเอียด ดังนี้
- โหมดอัตโนมัติ
จะเป็นการที่เครื่องจะถูกคำนวนมาจากโรงงานผลิตแล้วว่าจะใช้การสร้างอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการทำงานโดยการกำหนดค่าอุณหภูมิเพียงจุดเดียว กล่าวคือเพียงแค่เราตั้งค่าอุณหภูมิที่หน้าจอแรกสุดของเครื่องชง เครื่องจะคำนวณให้เองตามการตั้งค่าจากโรงงานผลิตว่าในแต่ละส่วนของระบบทำความร้อนภายในเครื่องชงกาแฟนั้น จะใช้อุณภูมิเท่าใดบ้าง เพื่อให้ได้อุณหภูมิสุดท้ายที่ใช้ชงกาแฟตามที่เราตั้งค่าไว้
- โหมดแมนนวล
ในโหมดนี้จะเป็นการตั้งค่าการควบคุมอุณหภูมิโดยผู้ใช้งานได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นหม้อต้มน้ำที่ 1 (Inlet Boiler) หม้อต้มน้ำที่ 2 (Outlet Boiler) และที่หัวชง ด้วยการตั้งค่าที่หน้า Home screen เช่นเดียวกัน โดยเลือกที่แถบเมนู Heat zone คุณก็จะสามารถตั้งค่าอุณหภูมิในแต่ละส่วนได้อย่างอิสระเลยค่ะ
2. แถบเมนู Rinse Time
เป็นเมนูที่เรากำลังจะมาพูดถึงในวันนี้นั่นเองค่ะ โดยด้านหลังแถบเมนูนี้จะเป็นค่าของระยะเวลาที่ใช้ในการ Rinse ของเครื่องชงกาแฟค่ะ โดยมีหน่วยเป็นวินาที (Second) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้มากหรือน้อยกว่าค่าที่ตั้งมาจากโรงงานผลิตได้
3. แถบเมนู Rinse Power
ในแถบเมนูนี้จะเป็นการตั้งค่าควบคุมอัตราการไหลของน้ำที่ออกมาในระหว่างที่ Rinse โดยจะเป็นการควบคุมความเร็วในการทำงานของมอเตอร์ที่ใช้ในการสร้างแรงดันน้ำ โดยสามารถตั้งค่าได้เป็นเปอร์เซ็นต์การทำงานของมอเตอร์ ซึ่งผู้ใช้งานอาจเพิ่มหรือลดความเร็วของมอเตอร์ได้ที่เมนูนี้เลยค่ะ
เพียงเท่านี้เราก็จะได้การตั้งค่าระยะเวลาและอัตราการไหลของการ Rinse ในเครื่องชง Modbar Espresso EP ได้ตามที่เราต้องการแล้วค่ะ แล้วกลับมาพบกับบทความน่ารู้เกี่ยวกับการใช้งานเครื่องชง Modbar ได้ในครั้งหน้านะคะ แต่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรนั้นรอติดตามกันได้เลยค่ะ
Bluekoff Co.,Ltd. สำนักงานใหญ่
และสถานที่เรียนชงกาแฟ
81 ซอยลาดพร้าว 15 แยก 1 ถนนลาดพร้าว
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
จันทร์ - เสาร์ 8:30น. - 17:00น.
หยุดวันอาทิตย์ และวันหยุดนขัตฤกษ์