Bluekoff ขอขอบคุณ La Marzocco และ Accademia Del Caffe Espresso ที่ได้เปิดโอกาสให้เหล่าผู้ร่วมทริปได้สัมผัสกับความ Exclusive ของแบรนด์เครื่องชงระดับโลก พร้อมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมถึงจัดเตรียมกิจกรรมดีๆ ที่ให้ทั้งความรู้ ประสบการณ์ แรงบันดาลใจ และความสนุกสนานตลอดทั้งทริป และ Bluekoff ไม่พลาดที่จะเก็บภาพบรรยากาศสุดประทับใจจากทริป ‘Accademia Del Caffee Espresso: Travel & Learn Experience’ เมื่อวันที่ 24 – 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มาฝากชาว Coffee Lovers ทุกคนอีกด้วย
เพราะทริปนี้ เป็นทริปสุดพิเศษที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดย LA MARZOCCO ACCADEMIA DEL CAFFE ESPRESSO (สถาบันการเรียนการสอนของ La Marzocco) ที่ให้ความไว้วางใจเลือก Bluekoff ให้เป็น Partner แรกของโลก ที่จะพาไปทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาของแบรนด์เครื่องชงกาแฟระดับโลก พร้อมทั้งเรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ ของบ้านเกิด La Marzocco ณ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
เมื่อเดินทางไปถึงเมืองฟลอเรนซ์ สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือ การตรงไปที่ Accademia Del Caffe Espresso สถาบันการเรียนการสอนของ La Marzocco ซึ่งทางสถาบันได้ทำการต้อนรับอย่างอบอุ่น และ Welcome Drink ผู้ร่วมทริปเป็น Espresso Shot แบบอิตาเลียนสไตล์ ที่ทำการสกัดจากเครื่องชง Hand Craft จาก OFB ถือเป็นจิบแรกของวันที่สุดฟิน
จากนั้นแวะเยี่ยมชม Accademia’s Museum เพื่อดูประวัติความเป็นมาของแบรนด์ La Marzocco ตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบัน เริ่มจากบาร์กาแฟยุคแรก ไปจนถึงประวัติความเป็นมาของเครื่องชง และวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยี ที่ทำให้เครื่องชงกาแฟสามารถสกัดช็อตเอสเพรสโซได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ตามด้วยพูดคุยและพบปะกับทีมช่างผู้ผลิตเครื่องชงจากแผนก OFB หรือ Officine Fratelli Bambi แผนกผลิตเครื่องชงกาแฟพิเศษแบบ Hand Craft ที่ทำชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวเครื่องด้วยมือคน และทำการประกอบเองอย่างพิถีพิถัน ทำให้สามารถออกแบบและปรับแต่งตัวเครื่องได้ทุกส่วน ในส่วนนี้ทางทีมงานได้มีการสาธิตการตัดแผ่นสเตนเลสและการดัดขึ้นรูปชิ้นส่วนของเครื่องให้ได้ชมอีกด้วย
วันที่ 2 เริ่ม Workshop แรก ด้วยหัวข้อ People & Culture โดยมี Mr. Chris Salierno, La Marzocco, International Global Marketing Director ได้บรรยายถึงแก่นแท้ของแบรนด์ La Marzocco ที่ตั้งใจอย่างมุ่งมั่นในการส่งต่อคุณค่าที่ดีให้กับผู้คน และสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กร
ต่อมาเป็น Workshop ทำพาสต้ากับทีมเชฟของ Accademia โดยเมนูที่ทำคือ Tortellini และ Tagliatelle เป็นพาสต้าที่ได้รับความนิยมในแถบฟลอเรนซ์ ทำให้เหล่าผู้ร่วมทริปได้ทั้งความสนุกสนานและความรู้ทางด้านอาหารไปพร้อมกัน จากนั้นรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับผู้บริหาร La Marzocco และทีมงาน Accademia
ช่วงบ่าย รับฟังการบรรยายในหัวข้อ History of Coffee จาก Mr. Massimo Battaglia, Accademia & Coffee Research Leader เพื่อเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของกาแฟ และโปรเซสที่ส่งผลต่อคุณภาพและรสชาติของกาแฟ และช่วงท้ายของวันเป็น Workshop: Honey Testing โดย Mrs. Emily Mallaby ผู้ริเริ่มเลี้ยงผึ้งที่ชั้นดาดฟ้าของ Accademia ได้เชิญเหล่าผู้ร่วมทริปชิมน้ำผึ้งสดจากต้นลาเวนเดอร์ที่ปลูกบนดาดฟ้า จากนั้นให้ลองชิมน้ำผึ้งอีก 7 ชนิด ที่เป็นน้ำผึ้งจาก Single Terroir ทำให้ได้เรียนถึงรู้รสชาติที่หลากหลายของน้ำผึ้ง และเปิดประสบการณ์ในด้าน Sensory ใหม่ๆ เพิ่มอีกด้วย
วันที่ 3 เรียนรู้กระบวนการคั่วกาแฟจาก Mr. Marco Purini และ Mrs. Nora Smahelova จากทีม Coffee Specialists ที่บรรยายถึงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและเคมีที่เกิดขึ้นในระหว่างการคั่ว ว่าส่งผลต่อเมล็ดกาแฟอย่างไร จากนั้นชมการสาธิตการคั่วเมล็ดกาแฟจากโปรเซสต่างๆ อย่าง Washed, Honey และ Natural Process สุดท้ายชิมรสชาติของกาแฟคั่วในระดับต่างๆ อย่าง Light, Medium, Medium to Dark และ Dark
ต่อมาเป็นการ Cupping เมล็ดกาแฟพิเศษ สายพันธุ์ Robusta จากแหล่งปลูกประเทศบราซิล ที่มีการนำโรบัสต้าไปทดลองทำโปรเซสด้วยการหมักแบบไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic) ในระยะเวลาที่แตกต่างกัน เพื่อพัฒนาในด้านของกลิ่น ให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการเปิดมุมมองและประสบการณ์ใหม่ๆ ของกาแฟโรบัสต้าให้กับผู้ร่วมทริปเป็นอย่างมาก ทำให้เห็นถึงศักยภาพของกาแฟโรบัสต้าที่สามารถพัฒนารสชาติให้ดีขึ้นไปอีกได้
ในช่วงเย็นเป็นกิจกรรมเดินชมเมือง และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ยุค Renaissance ของเมืองฟลอเรนซ์ประเทศอิตาลี ที่มีความโดดเด่นทางด้านศิลปะ สถาปัตยกรรม โบสถ์ และอาคารต่างๆ
นอกจากนี้ฟลอเรนซ์ยังเป็นเมืองต้นกำเนิดของการธนาคาร รวมถึงไอศกรีมเจลาโต้ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยมีไกด์พาเยี่ยมชมและบรรยายถึงความเป็นมาตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม ทำให้ทราบถึงประวัติศาสตร์ต่างๆ และเข้าใจรายละเอียดที่มาที่ไปของเมืองฟลอเรนซ์มากยิ่งขึ้น
วันที่ 4 เยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องชงกาแฟที่ส่งจำหน่ายทั่วโลก ถือเป็นฐานทัพใหญ่ที่สุดของแบรนด์ La Marzocco พร้อมแวะชมทุกกระบวนการการผลิต ตั้งแต่การเตรียมอะไหล่ การผลิต Boiler ก่อนที่จะส่งไปประกอบเป็นเครื่องชงทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Linea Micra, Linea Mini, Linea Classic S, KB90 และเครื่องชงรุ่นอื่นๆ
ต่อด้วยรับฟังบรรยายจากทีม Aftersales Service เกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตเครื่องชง พร้อมเผยจุดเด่นและประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งของเครื่องชง La Marzocco และ IoT (Internet of Thing) ที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตเชื่อมผ่าน Application La Marzocco Home และ La Marzocco Pro แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบ การผลิต และการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของทีม La Marzocco
ก่อนกลับแวะชมเมือง Scarperia ที่มีกระบวนการผลิตมีด เป็นหนึ่งในสินค้าที่มีชื่อเสียงของเมือง โดยมีดที่ผลิตนั้น มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน มีความแข็งแรงและสวยงามเป็นเอกลักษณ์
วันที่ 5 วันสุดท้ายของกิจกรรม ผู้ร่วมทริปได้เดินทางไปยัง Fattoria Poggiopiano โรงงาน Olive Oil & Winery เพื่อเรียนรู้การปลูกต้นมะกอก รวมถึงกระบวนการการผลิต และมีกิจกรรม Workshop อย่าง Olive Oil Tasting เพื่อชิมน้ำมันมะกอกร่วมกับการ Pairing อาหารและไวน์แบบมืออาชีพ
ตลอด 5 วัน ที่ได้ท่องเที่ยวและเรียนรู้ไปกับ Accademia บอกเลยว่าเป็นทริปที่ได้รับทั้งความรู้ ความสนุกสนาน และประสบการณ์ในทุกๆ ด้าน ถือเป็นทริปที่เปิดมุมมองใหม่ๆ ให้กับเหล่าผู้ร่วมทริปที่หลงไหลในเรื่องของกาแฟและความเป็นมาของแบรนด์ La Marzocco เพราะสิ่งที่ La Marzocco ได้จัดขึ้นมานั้น ไม่เพียงแต่ให้เรียนรู้เรื่องราวของกาแฟและเครื่องชงกาแฟเท่านั้น แต่ยังเป็นการบูรณาการถึงวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ ให้เติบโตไปพร้อมๆ กันแบบยั่งยืน
นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ร่วมทริปที่ได้ไปเยือนแหล่งต้นกำเนิดของ La Marzocco แน่นอนว่าสามารถนำประสบการณ์และความรู้เหล่านี้มาต่อยอด และปรับใช้กับชีวิตประจำวัน การทำงาน เป็นการตั้งเป้าหมายเพื่อส่งต่อคุณค่าที่ดีให้กับคนรอบข้างและสังคมได้นั่นเอง
Bluekoff Co.,Ltd. สำนักงานใหญ่
และสถานที่เรียนชงกาแฟ
81 ซอยลาดพร้าว 15 แยก 1 ถนนลาดพร้าว
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
จันทร์ - เสาร์ 8:30น. - 17:00น.
หยุดวันอาทิตย์ และวันหยุดนขัตฤกษ์