เรื่องราวของ

"คุณจีรนันท์ ยิ่งเจริญ"

     คุณจีรนันท์ เจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ ในตลาดดอกไม้ยอดพิมาน ย่านปากคลองตลาด การเริ่มต้นเส้นทางที่ไม่ได้มาจากแผนธุรกิจใหญ่โต หากแต่เกิดจาก “ความรักในกาแฟ” และ “การเลือกครั้งสำคัญ” ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางกาแฟตลอด 14 ปี

     เธอเล่าว่า จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อแฟนกำลังจะลาออกจากงาน ขณะนั้นอายุกำลังย่าง 40 และคิดว่าการเริ่มงานใหม่คงไม่ได้ค่าตอบแทนเท่าเดิม อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟ บางร้านถึงขั้นขอเข้าไปชงเอง ความชอบเล็กๆ นี้ทำให้ทั้งคู่เริ่มมองหาหนทางใหม่ จึงตัดสินใจไปเดินที่งานกาแฟ เพื่อมองหาเครื่องชงและเมล็ดกาแฟ สำหรับการเริ่มต้นร้านเล็กๆ ของตัวเอง

     วันนั้นทั้งคู่เดินชิมเกือบทุกร้านจนแทบหมดแรง แต่กลับยังไม่เจอกาแฟที่ใช่ จนเกือบจะกลับบ้าน กระทั่งสายตาสะดุดเข้ากับบูธ Bluekoff “ลองอีกสักแก้วเถอะ ร้านสุดท้ายแล้วกัน” พอได้ชิมทั้งคู่ก็ถึงกับมองหน้ากันและรู้ทันทีว่า…นี่แหละ คือกาแฟที่กำลังตามหา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการใช้เมล็ดกาแฟ Bluekoff ที่สืบต่อยาวนานกว่า 14 ปี

เพราะรสชาติที่ไม่เหมือนใคร

     สิ่งที่ทำให้คุณจีรนันท์เลือกกาแฟ Bluekoff ไม่ใช่แค่รสชาติที่หอมละมุน แต่ยังเพราะความเข้มที่ไม่มีกลิ่นไหม้ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ลูกค้าติดใจ “ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบมากจนเปลี่ยนไม่ได้” เธอกล่าว แม้จะเคยคิดลองเมล็ดจากที่อื่น แต่สุดท้ายก็ไม่เคยเจอที่ถูกใจ ทำให้ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา Bluekoff จึงเป็นพาร์ทเนอร์เดียวที่อยู่เคียงข้างร้านเสมอ ผ่านการเติบโตมาด้วยกัน

กาแฟที่สร้าง “สายใย”

     สิ่งที่คุณจีรนันท์รักที่สุดในเส้นทางกาแฟ ไม่ใช่แค่รสชาติ แต่คือความสัมพันธ์กับผู้คนที่ร้าน หลายคนเริ่มจากการเป็นลูกค้า ก่อนจะกลายเป็นเพื่อนสนิท กินข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน หรือเอาของมาฝากกัน

“ไม่ใช่แค่เราให้กาแฟแล้วจบ แต่มันคือความผูกพันที่ค่อยๆ สนิทกันไป จนวันนี้แค่เห็นหน้าก็รู้แล้วว่าลูกค้าจะสั่งเมนูไหน”

     ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและผูกพันกับร้านมากขึ้น แม้ในวันที่ร้านหยุด ลูกค้าก็ยังขอให้ทำกาแฟไว้ให้ล่วงหน้า และเมื่อเดินทางไปต่างจังหวัดก็มักจะบอกเสมอว่า “คิดถึงกาแฟของเธอ กินที่ไหนก็ไม่เหมือน”

ร้านกาแฟกลางตลาดดอกไม้

     ร้านของคุณจีรนันท์ไม่ได้ใหญ่โต หากแต่เป็นร้านเล็กๆ ในปากคลองตลาด ลูกค้าหลักคือพ่อค้า แม่ค้า รวมถึงแรงงานที่ต้องทำงานทั้งวันทั้งคืน กาแฟจึงเป็นพลังงานสำคัญที่ช่วยให้พวกเขายืนหยัดได้ และ Bluekoff Premium Coffee Thai Arabica 100% Grade A ก็คือเมล็ดกาแฟที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพและรสชาติ

“มันคือกาแฟที่จบในตัว ทั้งอร่อย หอม เข้มข้น และตรงกับความต้องการของลูกค้าเรา”

14 ปีแห่งความผูกพัน

     ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา ร้านกาแฟของคุณจีรนันท์ผ่านเรื่องราวมากมายที่ไม่แน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน และยังคงยึดมาตลอดคือการเลือกใช้เมล็ดกาแฟจาก Bluekoff “ถ้าไม่มี Bluekoff ร้านพี่อาจจะไม่อยู่ได้ดีอย่างวันนี้” เธอกล่าวด้วยความจริงใจ

“ในวาระครบรอบ 25 ปีของ Bluekoff อยากให้ Bluekoff รักษามาตรฐานและคุณภาพดีๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะกาแฟไทยเราไม่แพ้ชาติไหน และอยากให้กาแฟไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ”

     สำหรับคุณจีรนันท์ กาแฟคือสายใยที่เชื่อมผู้คน และ Bluekoff คือเพื่อนร่วมทางที่อยู่เคียงข้างตลอดมา - Better Together