ระบบกรองน้ำ RO – Mixed ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถปรับคุณภาพน้ำ ให้เหมาะสมกับเครื่องชงกาแฟ เพื่อให้สกัดกาแฟออกมาให้ได้รสชาติที่ดีและใกล้เคียงกันทุกแก้ว ค่า TDS ที่เหมาะสม คือ 70 - 150 ppm. หากมากกว่านี้ จะทำให้เครื่องชงเกิดตะกรันได้ง่าย, กาแฟจะมีรสชาติค่อนข้างเค็ม และมีความฝาดแห้งตอนท้าย
โดยระบบหลักๆ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
1. ระบบ RO 5 ขั้นตอน
1.1. กรองหยาบ : กรองตะกอนหยาบขั้นต้น ขนาด 5 ไมครอน ที่ปะปนมากับน้ำทุกชนิด เช่น ทรายละเอียด, สนิมเหล็ก, เศษผง และจุลินทรีย์ ฯลฯ
1.2. กรองคาร์บอน : สารกรองจะเป็นถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon) ซึ่งจะลดปริมาณคลอรีนในขณะที่น้ำไหลผ่าน จะช่วยเพิ่มคุณภาพน้ำและป้องกันความเสียหายให้กับเยื่อกรองหลัก นอกจากนี้ยังสามารถกรอง สี กลิ่น และรสของน้ำ ซึ่งอาจเกิดจากสารอินทรีย์ คลอรีนในน้ำ ผงซักฟอก, ฟีนอล และยาฆ่าแมลง เป็นต้น
1.3. กรองเรซิ่น : กรองเรซิ่น จะทำหน้าที่กรองพวกหินปูน และความกระด้างในน้ำออก ทำให้น้ำไม่มีตะกรันหรือหินปูน กลายเป็นน้ำอ่อน/น้ำกรอง รสชาติจะไม่กระด้างเท่าน้ำประปา ลดโอกาสการเกิดนิ่วในร่างกาย น้ำอ่อนจะถูกแยกไปเป็นน้ำผสม และอีกส่วนจะส่งไปยังกรอง RO
1.4. RO. Membrane : ขจัดสิ่งปนเปื้อนในน้ำ เป็นกระบวนการที่ใช้ความดันน้ำผ่านเยื่อกรอง (Membrane) ซึ่งเป็นเยื่อของสะสารที่สามารถให้น้ำซึมผ่านได้ มีรูขนาด 0.0001 ไมครอน ประสิทธิภาพสูงสุด 400 แกลลอน/วัน สามารถขจัดสารเคมีโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมี่ยม ฯลฯ และเชื้อโรคต่างๆในน้ำ ได้มากถึง 95 % หลังจากผ่านขั้นตอนนี้ น้ำจะถูกแบ่งออก เป็น 2 ส่วน ได้แก่
1.5. Post Carbon Filter : สารกรองจะเป็นถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon) เป็นขั้นตอนสุดท้ายของระบบการกรอง ขจัดกลิ่น หรือ ก๊าซ ที่ยังคงเหลือในน้ำและปรับรสชาติของน้ำให้เป็นธรรมชาติ รวมถึงปรับ pH ให้เป็นกลาง
2. ระบบน้ำผสม
น้ำที่ออกจาก กรองเรซิ่น จะถูกแยกออกมาที่ปลายท่อเราจะติดตั้งวาล์วน้ำ เพื่อปรับอัตราการไหลของน้ำ สำหรับผสมกับน้ำ RO บริสุทธิ์ ก่อนเข้าถังพักน้ำ
Bluekoff Co.,Ltd. สำนักงานใหญ่
และสถานที่เรียนชงกาแฟ
81 ซอยลาดพร้าว 15 แยก 1 ถนนลาดพร้าว
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
จันทร์ - เสาร์ 8:30น. - 17:00น.
หยุดวันอาทิตย์ และวันหยุดนขัตฤกษ์